หญิงวัย 90 รอดปาฏิหาริย์ หลังติดใต้ซากแผ่นดินไหวญี่ปุ่น 5 วัน
เหตุแผ่นดินไหวญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นในวันปีใหม่ 2024 บริเวณคาบสมุทรโนโตะ จังหวัดอิชิคาวะ ทางตอนกลางของประเทศ ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 126 ราย บาดเจ็บ 516 คน และยังคงสูญหายอีกราว 220 คน
ปกติแล้ว ช่วงเวลาที่มีโอกาสพบผู้รอดชีวิตสูงที่สุดคือ 72 ชั่วโมง หรือ 3 วันแรกหลังเกิดเหตุ โดยยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร โอกาสพบผู้รอดชีวิตก็ยิ่งลดลงเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าหน้าที่และทางการญี่ปุ่นก็ยังไม่ละทิ้งความพยายามคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ยูเครนเผยหลักฐาน รัสเซียใช้ขีปนาวุธเกาหลีเหนือ
จับตาอนาคตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ญี่ปุ่น หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง
สหรัฐฯ สั่งระงับ “โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 9” หลังหน้าต่างหลุดกลางอากาศ
โดยเฉพาะหลังจากมีการพบและช่วยเหลือหญิงชราวัย 90 ปีคนหนึ่งออกมาจากซากบ้านที่พังถล่มลงมาในเมืองซูสุของ จ.อิชิคาวะ ได้สำเร็จ โดยเธอติดอยู่ใต้ซากนานถึง 5 วัน หรือก่อนหน้านี้ที่มีการช่วยเหลือชายอายุประมาณ 80 ปีจากซากในเมืองซูสุได้สำเร็จหลังติดอยู่ 3 วัน ความสำเร็จเหล่านี้ทำให้ญี่ปุ่นยังคงมีความหวังที่จะช่วยชีวิตผู้คนให้ได้มากที่สุด
เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่นี้ได้ทำให้อาคารจำนวนมากพังถล่มลงมา และทำให้เกิดดินถล่ม รวมถึงยังคงเกิดอาฟเตอร์ช็อกต่อเนื่อง ทำให้มีบ้านเรือนพังเพิ่มเติมและตัดขาดถนนหลายเส้นซึ่งสำคัญต่อการส่งความช่วยเหลือ
เจ้าหน้าที่เตือนว่า ถนนที่มีรอยแตกร้าวแล้วอาจพังทลายลงได้ และความเสี่ยงดังกล่าวเพิ่มขึ้น เนื่องจากคาดว่าจะมีฝนตกและหิมะในช่วงนี้
สำหรับพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดคือเมืองวาจิมะ 69 ราย รองลงมาคือซูสุ 38 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 500 ราย อย่างน้อย 27 รายมีอาการสาหัส
หนังสือพิมพ์โยมิอุริรายงานว่า จากการศึกษาทางอากาศ พบว่ามีเหตุดินถล่มมากกว่า 100 ครั้ง และบางจุดได้ถล่มปิดกั้นถนนสายหลัก ทำให้ชุมชนบางแห่งยังคงถูกตัดขาดจากโลกภายนอกและยังคงรอความช่วยเหลือ
ด้านชาวเมืองฮิมิในจังหวัดโทยามะของญี่ปุ่น หนึ่งในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว เปิดเผยว่า ผู้คนในชุมชนกำลังเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบาก จากปัญหาขาดแคลนน้ำ ทำให้ชาวบ้านบางส่วนไปตักน้ำจากแม่น้ำ เพื่อใช้ทำความสะอาดและชำระล้างร่างกาย
นอกจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติครั้งนี้แล้ว หน่วยดับเพลิงท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัยก็ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำประปา เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหาย เช่นเดียวกัน
เรียบเรียงจาก The Guardian